การรักษาสิว


1.) หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นสิว เช่น ความเครียด เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดสิว การถูหน้าบ่อยๆ ยาบางชนิด งดการแกะหรือบีบสิว
2.) เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ควรงดผลิตภัณฑ์อื่นที่มีผลระคายเคืองหน้าได้ เลือกใช้ครีมที่เนื้อเบาไม่มัน ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดสิว ช่วงแรกควรหยุดการใช้เครื่องสำอาง หากจำเป็นต้องใช้แนะนำให้ใช้ที่เป็นสูตรน้ำ ไม่มีน้ำมัน
3.) การใช้ยาทาสำหรับรักษาสิวเช่น
3.1.) ยาทากลุ่ม retinoid หรือวิตามินเอ มีฤทธิ์ในการผลัดการอุดตันของหนังกำพร้าบริเวณรูขุมขนให้เป็นปกติ และช่วยลดการอักเสบของสิว
3.2.) ยาทา Benzoyl peroxide หรือ BP มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ Cutibacterium acnes (C.acnes) และช่วยในการผลัดการอุดตันของหนังกำพร้าบริเวณรูขุมขน
3.3.) ยาทาแต้มสิวกลุ่มยาฆ่าเชื้อ เช่น clindamycin, metronidazole หรือ erythromycin มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ C.acne
การทายารักษาสิวควรทายาทุกวันต่อเนื่อง ใช้เวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ ถึงเริ่มเห็นผลการรักษา ควรทายาในขนาดที่แพทย์กำหนด ไม่ควรทายาปริมาณมากหรือบ่อยเกินไป
4.) ยากินกลุ่มยาแก้อักเสบ เช่น ยากลุ่ม tetracycline, erythromycin, doxycycline เป็นต้น และ ยากินกลุ่ม isotretinoin หรืออนุพันธ์ของวิตามินเอ #การรักษาสิวด้วยยากินควรอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ ไม่ควรซื้อยามากินเอง


นพ.พิพัฒพงศ์ เดชอุดม
อ.พญ.สาลินี โรจน์หิรัญสกุล


หากมีปัญหาเรื่องสิว ผดผื่น และอาการอักเสบบวมแดงของผิว มาปรึกษาเรา ศูนย์ผิวหนัง มศว
ให้บริการโดยแพทย์ผิวหนัง มั่นใจได้ในมาตรฐาน ถูกหลักวิชาการ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Androgenetic Alopecia (AGA) - ภาวะผมบางจากพันธุกรรม

สาระน่ารู้ : เล็บของคุณเป็นอย่างไร

เชื้อไวรัส COVID19 นั้นสามารถมีชีวิตอยู่ในอากาศ/สิ่งของรอบตัวเราได้นานแค่ไหน